5 ธันวาคม 2561

วังบอนเทรล 4 หน้าผา 5 น้ำตก สนามใหม่ อ่างเก็บน้ำวังบอน นครนายก


           ตอนแรกที่เห็นเพจโปรโมทงาน ทีมตะลอนรันนิ่งก็ค่อนข้างตื่นเต้นมากทีเดียวค่ะ เพราะเป็นสนามที่ไม่คุ้นเคย แถมคำโปรยจากผู้จัดว่าจะได้วิ่งบนอ่างเก็บน้ำ อ่าง กับอีก น้ำตก ท่ามกลางบรรยากาศป่าไม้ สถานที่ที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ ระยะก็มีทั้ง 21k 10k และ 5k เพื่อให้ได้สัมผัสบรรยากาศครบตามที่ผู้จัดว่าไว้ ทีมตะลอนฯ จึงขอร่วมพิสูจน์กับระยะสูงสุดค่ะ ไหนๆ ก็มาแล้ว นอกจากรีวิวสนามให้เพื่อนๆ ทราบ ทีมงานเลยขอช่วยงานทีมผู้จัดด้วยการเป็นสวีปเปอร์ ดูแลนักวิ่งคนสุดท้ายอีกตำแหน่งไปด้วยเลย

          ก่อนอื่นต้องชมว่าทีมงานมีการวางป้ายบอกทางมาสถานที่แข่งเป็นระยะ ถือว่าเตรียมการได้ดี การรับ Race Kit เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วค่ะ งานนี้ใช้ชิบแบบผูกกับรองเท้าอาจจะค่อนข้างใหม่กับนักวิ่งหลายๆ ท่าน แต่มีทีมงานให้ข้อมูลและดูแลตรวจเช็คความถูกต้องเป็นอย่างดี สำหรับสถานที่ที่รับบิบไม่กว้างแต่ไม่ได้แออัดนะฮะ ถือว่าโอเค ติดนิดนึงตรงที่มีการจัดบูทขายของบนถนน ทำให้การจราจร และจอดรถสำหรับนักกีฬาค่อนข้างลำบากทีเดียว ด้วยข้อจำกัดของสถานที่ที่ไม่ได้กว้างมาก เป็นพื้นที่อุทยานที่ประชาชนมาพักผ่อนกัน แต่ข้อดีคือมีพื้นที่ให้กางเต้นท์นะคะ สำหรับท่านที่ไม่สะดวกเรื่องที่พัก

ทางเข้างานวังบอนเทรลป้ายใหญ่เห็นชัดมาแต่ไกล

บริเวณสถานที่จัดงานวังบอนเทรล

จุดจำหน่ายสินค้านักวิ่งภายในงาน

ถ้วย เหรียญรางวัล และเสื้อฟินิชเชอร์ตั้งโชว์บริเวณที่รับ BIB

                วันแข่ง ด้วยข้อจำกัดของสถานที่ที่แอดสังเกตจากวันรับ Race Kit รวมถึงที่จอดรถที่คาดว่าต้องหายากแน่ๆ ก็จริงดังคาดค่ะ 55 แต่มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกดูแลเรื่องของที่จอดรถได้ดี จุดจอดรถที่ไกลที่สุดไปจุดปล่อยตัว แอดคะเนว่าบวกลบไม่น่าเกิน กิโลเมตร ก็ถือว่าวอล์มกันเบาๆ ไต่เนินสูงเล็กน้อย ไม่ได้ตัดกำลังอะไร สำหรับการปล่อยตัว ระยะ 21k มีการเลื่อนเวลาปล่อยตัวจากเดิมเป็น 5.30 . ซึ่งเข้าใจว่าคงเป็นห่วงเรื่องของแสงสว่าง ในส่วนของการปล่อยตัว ระยะนี้ล่าช้ากว่ากำหนดการไปพอสมควรค่ะ ก็เลยอาจทำให้ระยะห่างของนักวิ่ง 10k และ 5k ตามมาทัน เรียกว่าวิ่งๆ ไปเจอหน้ากันครบทุกระยะ


                สำหรับการรีวิวเส้นทางวิ่ง อย่างที่กล่าวไปค่ะ ทีมตะลอนฯ จัด 21k มาฝากทุกท่าน ตามไปดูกันเลยค่า


               กิโลเมตร ที่ 0-3 ช่วงแรกถึงฟ้าจะยังมืด แต่ทีมงานมีการติดตั้งไฟส่องสว่างเป็นระยะ ทำให้การวิ่งไม่ยากค่ะ ช่วงกิโลแรกเป็นทางถนน วิ่งลงเนินยาวๆ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางเทรล ช่วงนี้ถนนเป็นทางดิน มีแอ่งน้ำขังเล็กน้อย วางเท้าไม่ระวังอาจลื่นได้นะคะ แต่ทางค่อนข้างกว้าง ขาแรงแซงกันได้ ไม่ติดขัด


          กิโลเมตรที่ 3-5 ตรงนี้เริ่มเป็นทางถนนค่ะ ด้านข้างเป็นบ้านชาวบ้าน รีสอร์ท อากาศค่อนข้างดี มองไกลเห็นภูเขาให้ชุ่นชื่นเบาๆ สิ่งที่แอดชอบเป็นพิเศษของช่วงนี้คือ ชาวบ้านที่มายืนให้กำลังใจนักวิ่งที่ต่างส่งยิ้มให้กับขบวนนักวิ่งนับพัน เรียกว่าอบอุ่นดีทีเดียว อ่อ ในส่วนของจุดให้น้ำ มีแตงโมกันตั้งแต่สเตชันแรกเลยค่ะ แต่จุดติสำหรับตรงนี้คือจุดกลับตัวของระยะ 5k ที่ไม่ชัดเจนนะคะ มีนักวิ่งขาแรงเลยไปปะปนกับ 10k ทำให้น่าเสียดายอันดับ แอดว่าน่าจะเอามาวางกลางถนนเลยน่าจะดีกว่าค่ะ (เพราะแอดวิ่งผ่าน ถ้าไม่สังเกต ก็หาจุดกลับตัวของ 5k ไม่เจอเหมือนกัน)


                กิโลเมตรที่ 5-10 ระยะนี้พอเข้ากิโลเมตรที่ 5 ก็จะเลี้ยวขวาเข้าป่าไผ่ค่ะ เป็นทางเทรล มีเนินเล็กๆ ให้ Rolling ไปพอสนุกๆ ทางไม่กว้างแต่ไม่แคบขนาด Single Track ค่ะ ยังแซงกันได้ แต่หินลอยก้อนเล็กๆ เยอะอยู่ ก็ต้องใช้ความระมัดระวังเล็กน้อย แต่อากาศดีมากกกกก ถึงแนวหลังจะเริ่มเจอแสงแดดแล้ว แต่ป่าไผ่ร่มรื่นดีค่ะ มีลมเย็นอ่อนๆ พัดมา ให้หายใจหายคอได้สะดวก เรียกว่าวิ่งชมนกชมไม้ได้เพลินๆ ไปตามทางสักระยะ จะเจอจุดแยกของระยะ 21k กับ 10k โดย 21k จะเลี้ยวซ้ายไปทางวัดท่ามะปราง เพื่อมุ่งหน้าไปยังอ่างเก็บน้ำวังม่วง พร้อมกับจุด check point ที่ ของระยะ 21k ที่วิ่งๆ ไปอาจจะท้อนิดหน่อย เพราะอ้อมไต่ขึ้นเรื่อยๆ (แอดแอบอยากให้ RD วางรูทไต่ทางดินตรงที่ขึ้นไปเจอ Check point เลย น่าจะสนุกตอนดาวน์ฮิลลงมา 55)



          แนวหลังก็จะเจอแดดเต็มๆ หน่อย แต่สวยมากค่ะ จากนั้นก็จะลงมาทางถนนไปทางร้านอาหารวังม่วง แนวหลังก็จะเริ่มร้อนมากพอสมควร ในส่วนของทางวิ่งนี้ไม่ได้ปิดถนนนะคะ แต่แอดว่าก็ไม่ได้อันตรายอะไร รถที่นี่ขับไม่น่ากลัว แถมมีทีมมาแชลกับพี่ๆ ทีมกู้ภัยคอยประกบดูแลนักวิ่งตลอดทาง จากนั้นวนเข้าทางเทรลเล็กน้อย แล้วต่อถนนอีกยาวๆ เพื่อไป Check point ที่ ที่น้ำตกวังม่วง จุดนี้ได้หนังยางมาหนึ่งเส้น มีห้องน้ำให้พักเข้า กินน้ำ กินแตงโม


          จากนั้นก็จะวิ่งเข้าทางถนนสลับเทรล เพื่อยาวๆ ไปจุด Check point สุดท้ายที่อ่างเก็บน้ำโคกกลางค่ะ ซึ่งถ้ามาช่วงนี้เช้าๆ ตอนแดดยังไม่ออก จะสวยมากทีเดียวค่ะ จุดนี้ 21k check point ร่วมกับ 10k นะคะ หลังจากเรียบร้อยก็จะวิ่งย้อนทางเดิมผ่านผาผึ้งรีสอร์ท เพื่อกลับเข้าจุด Finish

โฉมหน้าผู้พิชิตวังบอนเทรลระยะ 21k คนสุดท้ายกับตะลอนรันนิ่ง

                สรุปแล้วนะคะ วังบอนเทรล ระยะ 21k (วัดจากนากาเกินมาประมาณ 300 เมตร ถือว่าโอเคค่ะ) ทางเทรลแอดประมาณว่าน่าจะประมาณ 40% ที่เหลือเป็นทางถนนค่ะ เรียกว่าออกไปทาง Cross Country ซะมากกว่า (สายเทรลจ๋าๆ อาจจะขัดใจ เพราะทางถนนเยอะ และไม่ค่อยมีทาง technical) นอกจากอุปกรณ์บรรจุน้ำที่อาจต้องพกเพิ่มเติม อุปกรณ์อื่นแอดว่ายังไม่จำเป็น รองเท้าถนนวิ่งได้สบาย รองเท้าเทรลก็จะเอามาลองก็ไม่ผิด แต่ถ้ารองเท้าเทรลที่ดอกลึกๆ แอดไม่แนะนำนะฮะ (สะเทือนถึงไตเลยทีเดียว 55) เป็นอีกเรซที่ระบบจัดการดี (ขนาดจัดงานครั้งแรกนะเนี่ย) น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ (เรื่องอาหารหลังเส้น ไม่ได้ไปวอแวแถวนั้นเลยค่ะ เลยรีวิวไม่ได้ 55 ใครไปลองเล่าสู่กันฟังได้นะคะ) ทีมมาแชล กู้ภัย น้องๆ เจ้าที่ประจำจุดรอนักวิ่งจนคนสุดท้าย เส้นทางไม่ยาก บรรยากาศดี อากาศดี ตากล้องเยอะมากกกกกกก

คลิปวิดีโอรีวิวบรรยากาศเส้นทางวังบอนเทรล 2018

                ข้อติเล็กน้อย คือ แอดว่าด้วยการจัดการของทีมงาน race นี้สามารถปล่อยตัวได้ไวกว่านี้ค่ะ เพราะทีมงานลากไฟส่องสว่างให้แบบเต็มที่มาก แล้วก็ถ้าวางรูทอ่างเก็บน้ำตั้งแต่ต้นๆ ช่วงที่ยังไม่ร้อน จะสวยมากกกกกกกกกกก โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำสุดท้ายค่ะ ส่วนน้ำตก ช่วงที่จัดงานน้ำมันน้อยอ่ะเนอะ เอาไว้ท้ายๆ ก็ได้

                เหมาะกับใครบ้าง : สนามนี้แอดว่าเหมาะกับนักวิ่งสายถนนที่อยากลองสัมผัสกับการวิ่งเทรลค่ะ หรือนักวิ่งเทรลมือใหม่ เพราะอากาศดี ทางไม่ยาก แดดไม่โหดร้าย และยังไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์มากนัก เหมาะสำหรับทดลองดูก่อนได้ว่าชอบหรือไม่ชอบการวิ่งบนเส้นทางดิน ทางหิน สนามนี้มีเนินให้พอได้ใช้กล้ามขา (แอดเก็บเกนมาได้ประมาณสองร้อยกว่า) วิ่งถนนมาแบบไม่มีประสบการณ์เทรลก็วิ่งได้ค่ะ

                ส่วนสนามหน้าแอดจะรีวิวที่ไหนอีกนั้น รอติดตามได้ที่เพจตะลอนรันนิ่งนะคะ ตอนนี้แอดขอตัว Slow Life ซ้อม taper เพื่อเตรียมไปตะนาวศรีก่อนค่ะ #วิ่งให้สุดแล้วหยุดที่บ้านกี้ (แต่รีวิวสนามอาจจะมีหรือไม่มีนะคะ เพราะคาดว่าจะไม่จบอีกแล้ว 55)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น